การคำนวณด้วย Microsoft Excel
รูปแบบการคำนวณด้วย Excel
เราสามารถใช้โปรแกรม Excel สร้างตารางคำนวณได้หลายรูปแบบ ตัวที่จะช่วยเราคงหนีไม่พ้นการนำสูตรและฟังก์ชันมาใช้ ดังนั้นเราควรรู้ความสามารถในการคำนวณของ Excel สามารถทำอะไรได้บ้าง เกี่ยวกับการคำนวณอัตโนมัติ การสร้างสูตร การใช้ฟังก์ชัน หรือการแก้ปัญหาในกรณีที่เกิดความผิดพลาดในการเขียนสูตร ซึ่งถ้าเราเข้าใจหลักการต่าง ๆ แล้ว Excel จะช่วยให้เราทำงานได้สะดวกขึ้น และการใช้สูตรไม่ยากอีกต่อไป
การคำนวณอัตโนมัติ
บางขณะที่เราป้อนตัวเลขในตาราง เราอาจจำป็นที่จะต้องตรวจสอบตัวเลขหรือดูผลลัพธ์ว่าถูกต้องหรือไม่ โดยไม่ต้องการให้แสดงผลลัพธ์ในตารางนั้น ๆ เราสามารถใช้การคำนวณอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้สามารถทราบผลลัพธ์ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องป้อนสูตรหรือฟังก์ชันใด ๆ ด้วยการดูผลลัพธ์ที่ Status Bar (แถบสถานะ) ซึ่งมีวิธีการใช้ดังนี้
1. แดรกเมาส์เลือกช่วงเซลล์ที่ต้องการให้คำนวณ
2. คลิกขวาที่ แถบสถานะ จะปรากฎกล่องแสดงคำสั่ง
3. เลือกคำสั่งที่ต้องการ (ในที่นี่เลือกคำสั่ง ผลรวม)
3. เลือกคำสั่งที่ต้องการ (ในที่นี่เลือกคำสั่ง ผลรวม)
5. จะปรากฏผลลัพธ์ที่ แถบสถานะ
จากวิธีการดังกล่าวจะเห็นว่าเราสามารถเปลี่ยนคำสั่งในการคำนวณได้ตามที่ต้องการดังรูป
การคำนวณโดยใช้สูตร การใช้สูตรเป็นวิธีที่ใช้ในการคำนวณที่นิยมมากที่สุด เพราะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว และสูตรบางอย่างยังสามารถช่วยคำนวณข้อมูลตัวเลขที่ซับซ้อนได้อีก แต่ละสูตรมีรูปแบบการใช้ที่แตกต่างกันออกไป
การใช้งานสูตรรูปแบบปกติ (Formula)
สูตรรูปแบบปกติจะเป็นสูตรที่เป็นสมการที่ใช้ดำเนินการกับข้อมูลในชีทด้วยการ
ใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ เช่น เครื่องหมายบวก ลบ คูณ หาร การอ้างอิงเซลล์อื่น
หรือสูตรที่ใช้รวมข้อความ เป็นต้น
สูตรรูปแบบปกติจะเป็นสูตรที่เป็นสมการที่ใช้ดำเนินการกับข้อมูลในชีทด้วยการ
ใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ เช่น เครื่องหมายบวก ลบ คูณ หาร การอ้างอิงเซลล์อื่น
หรือสูตรที่ใช้รวมข้อความ เป็นต้น
ตัวอย่าง |
=5-1 =9*8 =B5-A7 |
การใช้งานสูตรแบบฟังก์ชัน (Function)
เราสามารถใช้สูตรแบบฟังก์ชันช่วยคำนวณข้อมูลที่ซับซ้อนหรือมดีปริมาณมากได้ ซึ่งฟังก์ชันใน Excel เป็นสูตรที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและถูกสร้างให้เหมาะกับงานเฉพาะอย่าง
ตัวอย่าง |
=SUM(B1:B9) =AVERAGE(A9:A20) =COUNT(A1:A5) |
การใช้งานสูตรแบบอาร์เรย์ (Array) การใช้สูตรแบบอาร์เรย์สามารถทำหลาย ๆ การคำนวณให้คืนค่าเป็นผลลัพธ์เดียวหรือหลายผลลัพธ์ โดยสูตรอาร์เรย์ตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป
ตัวอย่าง |
{=SUM((B1:B9)/(A1:A5))} |
สูตรแบบต่าง ๆ จะมีความยากง่ายแตกต่างกันออกไป ซึ่งการสร้างสูตรนั้น เราจะต้องทราบหลักการทำงานของเครื่องหมายและสัญลักษณ์ในสูตร รวมถึงลำดับการคำนวณ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการแสดงผลลัพธ์ทั้งสิ้น
การสร้างสูตรคำนวณใช้เอง
การสร้างสูตรใช้เองนั้นจำเป็นจะต้องทราบถึงหลักกการและองค์ประกอบสำคัญต่าง ๆ ที่ประกอบอยู่ในสูตรรวมถึงลำดับที่เราจะใช้ในการสร้างสูตรด้วย
หลักการสร้างสูตร โครงสร้างหรือลำดับขององค์ประกอบต่าง ๆ ในสูตร จะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายซึ่ง Excel จะคำนวณสูตรจากซ้ายไปขวา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลำดับของตัวดำเนินการที่มีลำดับเหนือกว่า
โดยที่เราสามารถควบคุมลำดับของการคำนวณได้โดยใช้เครื่องหมายวงเล็บเพื่อจัดกลุ่ม
ในการคำนวณที่ควรจะเริ่มทำก่อน
โดยที่เราสามารถควบคุมลำดับของการคำนวณได้โดยใช้เครื่องหมายวงเล็บเพื่อจัดกลุ่ม
ในการคำนวณที่ควรจะเริ่มทำก่อน
ตัวอย่าง | |
=9+3/2 | ผลลัพธ์เท่ากับ 10.5 เนื่องจาก Excel จะคำนวณ 3 หาร ด้วย 2 ก่อน ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 1.5 แล้วสุดท้ายนำมาบวกด้วย 9 แต่ถ้าเราใช้วงเล็บเพื่อควบคุมการคำนวณโดยใส่วงเล็บให้ 9 บวกกับ 3 ก่อนแล้วจึงหารด้วย 2 ก็จะต้องใช้สูตร =(9+3)/2 ผลลัพธ์เท่ากับ 6 |
องค์ประกอบสำคัญในการสร้างสูตร ในการสร้างสูตรใช้งานต่าง ๆ ส่วนประกอบสำคัญต่อไปนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญซึ่งจะเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ ประกอบด้วย
เครื่องหมายเท่ากับ (=) จะเป็นตัวขึ้นต้นเสมอในการสร้างสูตร เพื่อเป็นการระบุให้ Excel รู้ว่าอักขระตัวถัดไปเป็นสูตร
อาร์กิวเมนต์ หรือองค์ประกอบที่จะถูกนำมาคำนวณได้แก่ อาร์กิวเมนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขหรือการอ้างอิงเซลล์หรือช่วง ป้ายชื่อ ชื่อ หรือฟังก์ชันแผ่นงาน
ตัวดำเนินการ ในการคำนวณ เช่น เครื่องหมาย ( + ) เครื่องหมายหาร ( / )
ลำดับการคำนวณ โดยปกติแล้ว Excel จะลำดับการคำนวณเครื่องหมายดังดต่อไปนี้ ตามลำดับ
1. วงเล็บ ( )
2. คูณ ( * ) หาร ( / )
3. บวก ( + ) ลบ ( - )
หมายเหตุ ลำดับความสำคัญเท่ากันให้คำนวณจากซ้ายไปขวา
อาร์กิวเมนต์ หรือองค์ประกอบที่จะถูกนำมาคำนวณได้แก่ อาร์กิวเมนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขหรือการอ้างอิงเซลล์หรือช่วง ป้ายชื่อ ชื่อ หรือฟังก์ชันแผ่นงาน
ตัวดำเนินการ ในการคำนวณ เช่น เครื่องหมาย ( + ) เครื่องหมายหาร ( / )
ลำดับการคำนวณ โดยปกติแล้ว Excel จะลำดับการคำนวณเครื่องหมายดังดต่อไปนี้ ตามลำดับ
1. วงเล็บ ( )
2. คูณ ( * ) หาร ( / )
3. บวก ( + ) ลบ ( - )
หมายเหตุ ลำดับความสำคัญเท่ากันให้คำนวณจากซ้ายไปขวา
ลำดับที่ Excel ใช้ดำเนินการในสูตร หากใช้ตัวดำเนินการหลาย ๆ ตัวในสูตรเดียวกัน ใน Excel จะมีลำดับการดำเนินการตามลำดับดังนี้
ลำดับที่ | ตัวดำเนินการ | คำอธิบาย |
1 | : (เครื่องหมายจุดคู่) | ตัวดำเนินการอ้างอิง |
2 | (ที่ว่างเดียว) | ตัวดำเนินการอ้างอิง |
3 | , (เครื่องหมาจุลภาค) | ตัวดำเนินการอ้างอิง |
4 | - | เครื่องหมายลบ (เช่น -5) |
5 | % | เปอร์เซ็นต์ |
6 | ^ | เลขชี้กำลัง |
7 | * และ / | การคูณและการหาร |
8 | + และ - | การบวกและการลบ |
9 | & | เชื่อมสายอักขระของข้อความ |
10 | = <> <=> = <> | การเปรียบเทียบ |
ตัวดำเนินการที่ใช้ในสูตร (Operator)
ตัวดำเนินการที่ใช้ในสูตร (Operator) เครื่องหมายหรือตัวดำเนินการคือ องค์ประกอบหนึ่งในสูตรโดยจะระบุชนิดของการคำนวณที่ต้องการ ซึ่ง Excel จะแบ่งตัวดำเนินการออกเป็น 4 ประเภท คือ คณิตศาสตร์ การเปรียบเทียบ ข้อความ และการอ้างอิง
ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Operator) ตัวดำเนินการทางคณิตสาสตร์ ใช้คำนวณด้วยวิธีทางคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน เช่น การบวก ลบ คูณ หาร การรวมตัวเลข การหาผลลัพธ์ต่าง ๆ
เครื่องหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
+ | การบวก | 5+3 |
- | การลบ | 9-4 หรือ -1 |
* | การคูณ | 5*6 |
/ | การหาร | 10/3 |
% | เปอร์เซ็นต์ | 2% |
^ | เลขชี้กำลัง | 2^2 (หรือ 2*2) |
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operator) เราสามารถใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบเพื่อการเปรียบค่าสองค่า โดยผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นค่าทางตรรกศาสตร์คือ True หรือ False
เครื่องหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
= | เท่ากับ | C5=D5 |
> | มากกว่า | C5>D5 |
< | น้อยกว่า | C5<D5 |
>= | มากกว่าหรือเท่ากับ | C5>=D5 |
<= | น้อยกว่าหรือเท่ากับ | C5<=D5 |
<> | ไม่เท่ากับ | C5<>D5 |
ตัวดำเนินการข้อความ (Text Concatenation Operator) ตัวดำเนินการข้อความจะใช้เครื่องหมาย (&) ในการรวมข้อความหรือคำ 2 คำขึ้นไป เพื่อให้เป็นข้อความเดียวกัน
เครื่องหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
& | เชื่อมหรือนำคำ 2 คำมาต่อกัน ทำ ให้เกิดค่าข้อความ ต่อเนื่องที่เป็นค่าเดียวกัน | "Lampamg"&"Kanlayanee" ผลลัพธ์เป็น LampangKanlayanee |
ตัวดำเนินการสำหรับอ้างอิง (Reference Operator) ตัวดำเนินการอ้างอิงถูกนำมาใช้เพื่อรวมช่วงของเซลล์สำหรับการคำนวณ
เครื่องหมาย | ความหมาย | ตัวอย่าง |
: (จุดคู่) | ตัวดำเนินการช่วง โดยจะอ้างอิงเป็นช่วง ระหว่าง จุดอ้างอิง ที่หนึ่งกับจุดอ้างอิงที่สอง | B1:B9 |
, (จุลภาค) | ตัวดำเนินการส่วนรวม ซึ่งเป็นตัวรวมการอ้างอิงหลาย ๆ ชุดเช้าด้วยกันเป็นการอ้างอิงหนึ่งชุด | SUM(A5:a12,C1:C5) |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น